• คลังบ้าน.com (สินเชื่อธนาคาร) : รวมข้อมูลการสินเชื่อธนาคารเพื่อที่อยู่อาศัย

Compare Listings

วิธีกู้ซื้อบ้านให้ผ่าน ได้วงเงินเต็ม 100% (ตอนที่ 2)

วิธีกู้ซื้อบ้านให้ผ่าน ได้วงเงินเต็ม 100% (ตอนที่ 2)

4

การยืมเงินนอกจากสถานะภาพทางบุคคลของ “คนยืมเงิน” แล้ว “คนให้ยืม” ต้องพิจารณาสถานะทางสังคมของคนยืมเงินด้วย เช่น เป็น ลูกใคร พ่อแม่ทำอะไร มีญาติพี่น้องไหม มีทรัพย์สินอะไร ที่ทำงานมีความมั่นคงไหม

สถานะทางสังคม จึงเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ส่งผลต่อการพิจารณาอนุมัติวงเงินสินเชื่อ เพราะหากเกิดการ เบี้ยวหนี้จะได้มีความมั่นใจว่าจะไปบังคับหนี้คืนจาก คนรอบข้างหรือทรัพย์สินรอบตัวของคนยืมเงินแทนได้มากน้อยเพียงใด

ครอบครัว
ถือว่าเป็นเรื่องที่ต้องมาพิจารณาเป็นลำดับต้นๆ แน่นอนว่าทางกฎหมาย ถือว่า บุคคลที่จดทะเบียนสมรส เป็นสามี ภรรยา ถือว่าเป็นคนๆเดียวกัน ดังนั้น ถ้าสามีมีหนี้สินเยอะมากๆ โอกาสที่ภรรยาจะขอยืมเงินจากคนอื่นก็ยาก ในทำนองกลับกันหากสามีมีทรัพย์สิน (สินสมรส) มากๆก็จะทำให้ภรรยามีโอกาสขอยืมเงินได้ง่ายขึ้น ดังนั้นคู่ชิวิต มีเครดิตดี การกู้ยืมก็จะทำได้ง่ายขึ้น

ผู้ค้ำประกัน ทั้งในส่วน พ่อ แม่ พี่น้อง ญาติ ตลอดจนเพื่อนร่วมงาน ก็มีผลต่อการขอยืมเงิน ยกตัวอย่างง่ายๆ ถ้าลูกยืมเงินแล้วเบี้ยวหนี้ไม่มีเงินมาชดใช้ แต่พ่อแม่มีฐานะดี คนให้ยืม ก็ยังพอมีความหวังไปทวงเงินคืนจากพ่อแม่มาแทนได้ ดังนั้น สถานะครอบครัวหรือผู้ค้ำประกันย่อมส่งผลต่อการพิจารณาอนุมัติวงเงินกู้อย่างแน่นอน

สถานที่ทำงาน
แม้ว่าคนยืมเงิน จะประวัติการทำงานกับบริษัทมานานมีรายได้สูง ทำให้มีความน่าเชื่อถือและมีความมั่นคงในอาชีพการงาน แต่หากผู้ยืมเงินไปตรวจสอบสถานที่ทำงาน (ธนาคารบางแห่งตรวจสอบสถานะการเงินของที่ทำงานด้วย ถ้าทำได้) แล้วพบกว่า กิจการเริ่มมีปัญหาการเงิน สภาพคล่องทางการเงินไม่ดี ก็จะส่งผลต่อการขอยืมเงินของคนยืมเงิน เพราะกังวลเรื่องความเสี่ยงว่าบริษัทจะปิดทำให้ ผู้ยืมเงิน ไม่มีรายได้มาชำระหนี้ ส่งผลให้บางครั้งผู้ยืมเงินก็จะแปลกใจว่า สถานะการเงินตัวเองก็ดีแต่ทำไม ผู้ให้ยืม ถึงไม่ให้ยืมเงิน ซึ่งก็อาจเป็นเหตุผลเรื่องสถานที่ทำงานก็เป็นไปได้

แต่ในอีกมุมหนึ่งหากธนาคารมีความรู้จักกับเจ้าของบริษัทของคนยืมเงิน ก็จะทำให้มีโอกาสได้รับการอนุมัติสินเชื่อเงินกู้ในวงเงินที่สูง ซึ่งจะสังเกตได้ว่า บางบริษัทจะมีสัญญากับธนาคารบางแห่งที่สามารถชำระเงินกู้ผ่านการหักบัญชีเงินเดือน ซึ่งธนาคารกับเจ้าของต้องรู้จักกันและทำข้อตกลงกันไว้ก่อน ดังนั้นเมื่อธนาคารมีความมั่นใจในการชำระเงินจากบัญชีเงินเดือนบริษัทจึงเป็นที่มาของการอนุมัติวงเงินสินเชื่อให้ได้สูงกว่า บริษัทอื่นๆทั่วไป

ทรัพย์สินที่ครอบครอง
โดยทั่วไปการยืมเงินนั้น บางครั้งผู้ให้ยืมก็ต้องดูทรัพย์สินของผู้ยืมเงิน หรือสภาพฐานะทางสังคมด้วย เพื่อให้อย่างน้อยเป็นหลักประกันให้อุ่นใจขึ้นมาบ้าง ว่าหากให้ยืมเงินไปแล้ว ต่อมาไม่สามารถใช้หนี้คืนได้ก็สามารถไปยึดเอาทรัพย์สินของผู้ยืมเงินมาใช้หนี้แทนได้ ไม่ว่าจะเป็น แก้ว แหวน เงิน ทอง เครื่องประดับ ดังนั้น หลักการยืมเงินโดยทั่วไป หรือที่ซับซ้อนขึ้นมาหน่อยเป็นโรงรับจำนำ และสถาบันการเงิน จะต้องพิจารณา “หลักประกัน” ที่ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะการยืมเงินที่มีมูลค่าสูงเพื่อไปซื้อบ้าน โดยหลักประกันชิ้นแรกที่ต้องพิจารณาคือ “บ้านหลังที่จะยืมเงินไปซื้อ” ถ้าบ้านมีมูลค่าสูงกว่าเงินที่ยืม ก็จะทำให้ผู้ให้ยืมมีความมั่นใจว่าสามารถยึดบ้านมาใช้หนี้ที่ยืมไปแทนได้ และหลักประกันต่อมาที่มักนำมาพิจารณาประกอบในการประเมินศักยภาพการใช้หนี้คือ เงินสดในบัญชี รถยนต์ ทองคำ ใบหุ้น เป็นต้น ซึ่งหากมีทรัพย์สินมาประกอบด้วยมากเท่าไหร่ ก็จะทำให้ผู้ให้ยืมอุ่นใจ โอกาสที่จะได้รับการอนุมัติวงเงินกู้ยืมก็มีสูงตามไปด้วย

หากเราต้องการกู้ให้ผ่าน ต้องพยายามทำความเข้าใจ “ใจเขา(ธนาคาร) ใจเรา (คนกู้ซื้อบ้าน)” ก็จะพอรู้แนวทางการวางแผนเพื่อยื่นกู้
ใครที่ชอบยืมเงินคนอื่น ก็ควรลองให้คนอื่นยืมเงินดูบ้าง เผื่อจะได้เข้าใจสถานะการพิจารณาของคนให้ยืมเงิน (พูดเล่นนะครับ เพราะคนที่ยืมเงินบ่อยๆก็คงมีปัญหาด้านการเงินจนไม่สามารถให้ใครยืมเงินได้)

อย่างไรก็ตามแม้ว่า ” คนยืมเงิน(คนกู้ซื้อบ้าน) “ จะมีศักยภาพที่ดีสามารถผ่านการอนุมัติ การขอกู้ซื้อบ้าน แต่การขอกู้ให้ได้วงเงิน 100% นั้นยังต้องพิจารณาถึงศักยภาพ “คนให้ยืมเงิน(ธนาคาร)” ด้วย ซึ่งสามารถอ่านต่อได้ในบทความต่อไปครับ (วิธีกู้ซื้อบ้านให้ผ่าน ได้วงเงินเต็ม 100% (ตอนที่ 3))

เรียบเรียงบทความ “วิธีกู้ซื้อบ้านให้ผ่าน ได้วงเงินเต็ม 100% (ตอนที่ 2)”

โดย ทีมงานคลังบ้าน (www.klungbaan.com)

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่  

LINE ID: @klungbaan

Related posts

USAThailand